วิธีการขึ้นรูปเครื่องเบญจรงค์ และวัตถุดิบ

วิธีการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์เครื่องเบญจรงค์ ผู้ผลิตเองจะต้องมีความชำนาญ มีเทคนิคอย่างเพียงพอ และกระบวนการผลิตเครื่องเบญจรงค์ แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนหลักๆคือ 1.) การผลิตเซรามิคของขาว หรือที่เรียกอีกอย่างว่าเครื่องขาว จะเป็นภาชนะรูปทรงต่างๆ มีสีขาว เช่น โถประดับ จาน ชาม แก้วนำ และชุดกาแฟเป็นต้น ลักษณะของการเคลือบของขาวจะมี 2 แบบ มีแบบเคลือบเงา และแบบเคลือบด้าน พอนำมาผลิตเป็นเครื่องเบญจรงค์แล้ว จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป สามารถหาซื้อได้ที่ "โรงงานในอำเภอ กระทุ่มแบน จังหวัด สมุทรสาครและจังหวัดสระบุรี" ราคาก็ขึ้นอยู่กับวัตถุที่เราจะซื้อ  2.) กระบวนการเขียนลายเครื่องเบญจรงค์ ในการผลิตจะเริ่มจากการเขียนวนทองเพื่อเป็นเส้นนำลาย ส่วนในเรื่องของลวดลาย จะมีลายละเอียดสูงเช่น การเขียนลายประเพณีไทย จะต้องมีการลอกลายหรือร่างเส้นบนพื้นผิวของเครื่องขาวก่อน ก่อนจะลงลายน้ำทอง หรือตัดเส้นหลักก่อน แล้วค่อยเริ่มเขียนลายตามต้องการด้วยน้ำทอง เมื่อเราลงลายเสร็จแล้ว จะต้องทิ้งไว้จนกว่าลายจะแห้ง เมื่อแห้งดีแล้ว ก็นำมาลงสีตามลายที่เขียนทองไว้จนครบ หลักของการลงสี ไม่ต้องลงสีจนหนาเกินไปเพราะจะทำให้สีหลุดง่าย และต้องไม่บางจนเกินไป เพราะจะทำให้สีของลายดูจาง


วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเครื่องขาวเพื่อทำเครื่องเบญจรงค์ วัตถุดิบก็มีความสำคัญมากต่อการผลิต เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือความต้องการของผู้ผลิต และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญของการผลิตคือความเข้าใจในเรื่องของวัตถุดิบที่นำมาใช้งาน เพราะถ้าเรารู้และเข้าใจจะทำให้เกิดการพัฒนากรรมวิธีของการผลิต รวมไปถึงการออกแบบหรือ การที่เราจะสร้างผลิตภัณฑ์ชนิดใหม่ขึ้นมา  วัตถุดิบที่นำมาใช้เครื่องเบญจรงค์ จะประกอบไปด้วยวัตถุดิบที่มีทั้งความเหนียวและไม่เหนียว และวัตถุดิบอื่นๆ ตามดังนี้ 

1.)วัตถุดิบที่มีความเหนียว วัตถุดิบประเภทนี้ได้แก่ดินชนิดต่างๆ เช่น 
1.ดินเกาลิน เป็นดินที่มีความบริสุทธิ์สูง เนื้อดินจะหยาบ มีความเหนียวน้อย ทนความร้อนได้สูง
2. ดินขาวเหนียว เป็นเนื้อดินละเอียด มีความเหนียวมักใช้ผสมกับดินชนิดอื่น เพื่อให้ขึ้นรูปทรงได้ง่าย           ขึ้น  
3. ดินแดง เป็นดินที่มีความเหนียวมากส่วนใหญ่จะนำไปทำกระเบื้อง โอ่ง หม้อดิน กระถางต้นไม้ เป็นต้น
4. ดินสีเทา เป็นดินที่มีความเหนียว เมื่อนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ จะขึ้นรูปได้ดี ทนความร้อนสูง 
5. ดินทนไฟ เป็นเนื้อดินที่ค่อนข้างหยาบ มีความเหนียวมาก ทนความร้อนสูงถึง 1,500 องศา โดยมันยังคงรูปไม่เปลี่ยนสภาพ ส่วนใหญ่จึงนำไปใช้ทำวัสดุทนไฟเช่น ทุ่นทนไฟสำหรับวัดอุณหภูมิในเตาเผา 

2.)วัตถุดิบที่ไม่มีความเหนียว เป็นวัตถุที่ใช้ผสมลงไปในเนื้อดินที่นำมาปั้นเป็นผลิตภัณฑ์ หรือใช้เป็นส่วน     ผสมของน้ำเคลือบ ซึ่งได้แก่หินประเภทต่างๆ เช่น 
1.หินฟันม้า เป็นหินที่แข๋ง มีความแตกต่างกันแยกได้หลายชนิด มักนำมาใช้ผสมในเนื้อดินเพื่อปั้น              ผลิตภัณฑ์ 
2.หินเขี้ยวหนุมาน หินชนิดนี้จะมีความแข็ง ย่อยสลายยาก และมีความบริสุทธิ์สูง และเมื่อนำมาบด              ละเอียดหรือเผาใช้ผสมในเนื้อดินจะทำให้เนื้อดินลดการหดตัว ทนไฟสูง ทั้งยังใช้ผสมในน้ำเคลือบ          ทำให้เคลือบเป็นมัน ทนการกัดกร่อนได้ดี
3.หินไฟโรฟิลไลท์ เป็นหินไม่แข็งมากนัก เมื่อนำไปผสมในเนื้อดินปั้นผลิตภัณฑ์ทำให้มีความทนไฟสูง และลดการบิดเบี้ยวของตัวผลิตภัณฑ์ได้ดี และหินชนิดนี้ถ้าได้ผสมกับทรายจะทำให้เพิ่มความแข็งแรงแก่ตัวผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น  

3.)วัตถุดิบอื่นๆ 
 1.เถ้ากระดูก จะได้มาจากการเผากระดูก จะมีส่วนผสมของแคลเซียมฟอสเฟต และแคลเซียม                     คาร์บอเนต นำไปผสมในเนื้อดินปั้นเป็นตัวช่วยในการหลอมละลาย ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความโปร่งแสง 2.ทัลค์ เมื่อนำไปผสมในเนื้อดินปั้นผลิตภัณฑ์ จะทำให้เนื้อดินลดความเหนียวลง มีผลให้ขึ้นรูปยาก แต่       จะทำให้ผลิตภัณฑ์ทนไฟสูง ทนต่อด่าง 
3.เซอร์คอน มีคุณสมบัติทนความร้อนได้สูงมาก จึงมักใช้ผสมในเนื้อดิน เพื่อใช้ทำวัตถุทนไฟ
    สารประกอบอะลูมินา หมายถึงสารที่มีส่วนประกอบของอะลูมินาศุง อะลูมินาเองเป็นสารที่ทนความ           ร้อนได้ถึง2,050องศาเซลเซียสเลยทีเดียว



แหล่งอ้างอิง : http://student.swu.ac.th/fa471010251/benja3.htm

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น